ไมโครซอฟท์ชี้ช่อง SMEs สร้างโอกาสใหม่จากฐานลูกค้าเฟซบุ๊ก-ทวิตเตอร์ พร้อมใช้คลาวด์ลดต้นทุนป้องกันความเสี่ยงข้อมูล ชู "Buzzebees" สตาร์ตอัพต้นแบบพัฒนาแอปฯ มาร์เก็ตติ้ง-CRM บนโซเชียลมีเดีย

น.ส.สุชาลักษณ์ สรณานุสรณ์ ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจสินค้าเซิร์ฟเวอร์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เทรนด์ไอทีในปีหน้าจะได้เห็นการนำโซเชียลเน็ตเวิร์กและแอปพลิเคชั่นใหม่ ๆ มาใช้ในภาคธุรกิจมากขึ้น เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มีกว่า 1 พันล้านผู้ใช้ ทวิตเตอร์ 200 ล้านผู้ใช้ และการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของการใช้งานดาต้า เพื่อมาต่อยอดธุรกิจ ซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า รวมถึงการใช้งานด้านคลาวด์คอมพิวติ้งที่เพิ่มขึ้นทุกปี และจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายในต้นทุน การบริหารจัดการ และการป้องกันความเสียหายของข้อมูล จากภัยธรรมชาติหรือความเสี่ยงด้านอื่น ๆ ซึ่งไมโครซอฟท์ได้เปิดให้บริการคลาวด์ตั้งแต่ มิ.ย.ปีที่แล้ว

ภายใต้ชื่อ "Windows Azure" เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้บริการคลาวด์ ทั้งการประมวลผล พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย และบริหารจัดการระบบโดยอัตโนมัติ โดยมี SMEs ที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชั่นต่อยอดธุรกิจเป็นกลุ่มเป้าหมาย อาทิ กลุ่มสตาร์ตอัพ อย่างอุ๊คบี บัซซี่บีส์ รวมแล้วมีลูกค้ากว่า 800 ราย เพิ่มจากปีก่อนที่มีลูกค้าเพียง 200 ราย ส่งผลให้รายได้จากบริการ Windows Azure เพิ่มขึ้นกว่า 400% และคาดว่าในปีหน้าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า หรือราว 3,000 ราย โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์การเมืองไม่แน่นอน การใช้บริการคลาวด์ที่มีศูนย์ควบคุมในต่างประเทศถือว่าปลอดภัยที่สุด

น.ส.ณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวว่าบัซซี่บีส์เป็นกลุ่มสตาร์ตอัพ ทำธุรกิจพัฒนาแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ โดยใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในการให้บริการด้วย เริ่มจาก "Buzzebees" แอปพลิเคชั่นเชื่อมระหว่างโซเชียลมีเดียและอีคอมเมิร์ซเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กผ่านแอปฯนี้จะได้รับคะแนนสะสม นำไปแลกของรางวัลหรือส่วนลดในการซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าที่ร่วมรายการกว่า 2,000 ร้านค้า และจะมีโปรโมชั่นในแต่ละเดือนกว่า 300-500 โปรโมชั่นและได้เปิดบริการ Privilege CRM Application กับแบรนด์ธุรกิจที่ต้องการทำกิจกรรมทางการตลาดภายใต้แบรนด์ตนเองด้วย โดยเริ่มพัฒนาระบบให้กับแคมเปญ Galaxy Gift, AIS Privilege, Kimheng Gold และล่าสุดทางกลุ่ม SingTel ของสิงคโปร์ได้ซื้อระบบของบัซซี่บีส์ไปใช้ทำ CRM กับบริษัทภายในเครือ

"เทคโนโลยีคลาวด์ช่วยตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างดี เพราะแรกเริ่มที่เปิดบริการ มีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพียงไม่กี่ราย แต่เมื่อการออกบูทหรือเปิดธุรกิจ CRM Application ทำให้มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นถึง 2 ล้านรายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงโปรโมชั่นจะมีผู้ดาวน์โหลดและใช้งานเยอะกว่า 20,000 คนต่อวินาที หากใช้เซิร์ฟเวอร์แบบเดิมจะไม่สามารถรองรับผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นขนาดนี้ได้ คลาวด์จึงตอบสนองธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่น สามารถขยายขีดความสามารถรองรับผู้ใช้ได้อย่างไม่จำกัด ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก ๆ"

และในปีหน้าจะยังขยายธุรกิจโฆษณาออนไลน์บนแอปพลิเคชั่น ที่สามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนตามที่เจ้าของแบรนด์สินค้าต้องการ รวมถึงสามารถสร้างโปรโมชั่นเฉพาะได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าการโฆษณาเป็นการรบกวนจนสร้างความรู้สึกไม่ดีกับแบรนด์นั้น ๆ